วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สังคมไทยมวลรวมกำลังจะแย่ อย่ามัวเแต่ยักแย่ยักยัน ให้ฟันฉับๆไปเลย........


ผมกำลังฟังการถ่ายทอดสดเสียง คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ สัญจร มาที่จังหวัดอุบลราชธานี ทาง สวท.FM98.5MHz. ที่หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฎ เมื่อเช้าวันนี้21พฤษภาคม2558 หัวใจของการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ คือ “ ให้ประชาชนเป็นใหญ่ คือ มีดุลยภาพกับฝ่ายการเมือง ป้องกันทุจริตคอรับชั่น  มีสังคมที่น่าอยู่ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม 

  ซึ่งเมื่อร่างเช่นนี้แล้ว แต่ในทางปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นมรรคเป็นผลแค่ไหน ก็ คอยติดตามดูอย่างไม่กระพริบตา ซึ่งผมเขียนบทความแนวทางการปฎิรูปประเทศไทย รวมทั้งแนวทางผมต่อการร่าง รัฐธรรมนูญ ในเว็บไซด์เฟสบุ๊ค หรือ บล็อกส่วนตัวผม   ให้ไปร่างให้ผมด้วย  เช่นจังหวัดอำนาจเจริญ หนึ่งในกลุ่มจังหวัดคลัสเตอร์ อีสานตอนล่าง ประชาชนต้องการเป็นเมืองพุทธเกษตร  จังหวัดอุบลฯของผมก็เช่นเดียวกัน ต้องการให้เป็นเมืองพุทธเกษตร และก็ควรจะเป็นทุกๆจังหวัดในกลุ่มจังหวัดอีสานล่างด้วย ซึ่งแนวทางผมให้ไปเพิ่มเติมกำหนดในรัฐธรรมนูญด้วย ถ้าทำได้     ในวันนี้ พูดถึง ปัญหาครอบครัว ปัญหาครอบครัวความแตกแยก ความไม่เข้าใจกันเยาวชนทั้งหลายหันไปพึ่งสุรา ยาเสพติด หันหน้าไปปรึกษาปัญหาต่างๆกับเพื่อนซึ่งกลายเป็นปัญหาสังคมในที่สุด

 





สังคมในปัจจุบันนี้ที่ทุกอย่างกลายเป็นความเคยชิน ความชั่วกลายเป็นความดี ความเลวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนออกมาชื่นชม ความผิดกลายเป็นการปกป้องตนเองและครอบครัว จนทำให้เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขอพระองค์โปรดชี้ทางนำด้วยเถิด

 

 

          ในศาสนาสังคมไทย กฎหมายนั้นได้มีกฎข้อห้ามต่างๆแต่คนส่วนมากนั้นไม่ประพฤติปฏิบัติและไม่เห็นว่าสิ่งที่ห้ามปรามนั้นมันคือความผิดบาปที่น่ากลัว ทุกเรื่องที่เป็นความเลวและชั่วร้าย พวกเขาปฏิบัติกันจนเป็นความเคยชิน ที่ดูเหมือนไม่มีความผิด จนกลายเป็นสิ่งที่ใครไม่ทำหรือใครที่ประพฤติดีกลับกลายเป็นความผิดปกติของบุคคลคนนั้น

 

 

และอุปมาบรรดาผู้ที่ปฏิเสธละเมิดกฎหมายนั้น ดังผู้ที่ส่งเสียงตวาดสิ่งที่มันฟังไม่รู้เรื่อง นอกจากเสียงเรียกและเสียงตะโกนเท่านั้น พวกเขาคือคนหูหนวก เป็นใบ้ ตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจ  

 

 ไม่ฆ่าสัตว์แล้วพวกเราจะกินอะไร เพราะเราฆ่าสัตว์เพื่อเอาไปทำบุญ  แต่พวกคนกินผักกินเจมัสวิรัติ ก็มีเกือบครึ่งค่อนประเทศ ทำไมทำได้

 

ไม่ลักทรัพย์คือไม่ขโมย แต่ขโมยทั้งหลายเอาเงินที่ขโมยได้ไปทำบุญ

 

          ห้ามประพฤติผิดในกาม ห้ามผิดลูกเมีย ห้ามมีชู้ ห้ามมีภรรยาหลายคน ห้ามข่มขืนกระทำชำเรา แต่เปิดอาบอบนวดกันอย่างถูกกฎหมาย เปิดขายเหล้า เบียร์ เปิดโชว์ลามกอนาจาร ผู้หญิงขายตัวตามถนน โรงแรมม่านรูดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ร้านสะดวกซื้อขายถุงยางอนามัยกันอย่างเสรี

 

          ห้ามผู้ชายมีภรรยาหลายคนแต่มีเล็กมีน้อยข้างนอกโดยที่ภรรยาไม่รู้ได้ โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ต้องรับผิดชอบเธอเหล่านั้น คดีฆ่าข่มขืนหรือรุมโทรมผู้หญิง และผู้ที่โดนกระทำก็เป็นเด็กผู้หญิง จนเพื่อนเราบางคนบอกว่าไม่อยู่หรอกสวรรค์ คนน้อยเดี๋ยวเหงา ไปอยู่ในนรกดีกว่าคนเยอะเพื่อนแยะสนุกกว่าถ้าพวกเขารู้ถึงความทรมานในนรกที่พระองค์พระเจ้าทรงเตรียมไว้คงไม่มีคำพูดแบบนี้อย่างแน่นอน

 

 

ผู้ใดปรารถนาชีวิตชั่วคราว (ในโลกนี้) เราก็จะเร่งให้เขาได้รับมัน ตามที่เราประสงค์แก่ผู้ที่เราปรารถนา แล้วเราได้เตรียมนรกไว้สำหรับเขา เขาจะเข้าไปอย่างถูกเหยียดหยามและถูกขับไส 

 

 

          ห้ามพูดปด ห้ามพูดเท็จ ห้ามโกหก ห้ามพูดจาส่อเสียด ห้ามนินทาว่าร้าย ลูกโกหกพ่อแม่เพื่อออกไปเที่ยวกับเพื่อน เพื่อนโกหกเพื่อน พี่น้องโกหกกันเอง การนินทาว่าร้ายกันตามหนังสือพิมพ์ดาราหรือ แม้แต่วงสังคมที่เรียกตนเองว่าอยู่ใน สังคมชั้นสูงแต่การกระทำที่แสดงออกมานั้นมันคือความตกต่ำของสังคม

 

          ห้ามดื่มสุรา ห้ามเสพของมึนเมาหรือยาเสพติด ห้ามเล่นการพนัน ความจริงที่ปรากฏคือรัฐบาลเป็นผู้ลงทุนในกิจการยาสูบ โรงเหล้า เบียร์เป็นของผู้บริหารและเศรษฐีระดับประเทศที่สนับสนุนรัฐบาล ภาษีส่วนใหญ่ที่ได้มาจากการซื้อขายภายในและการนำเข้าของผลิตภัณฑ์สุรา ยาสูบต่างประเทศ  เงินที่นำมารณรงค์ให้คนไม่สูบบุหรี่มาจากภาษีที่เก็บได้จากบุหรี่  ร้านอาหาร ผับบาร์เปิดขายเหล้ากันอย่างเสรี และคนส่วนมากที่ตายกันช่วงเทศกาลต่างๆ มาจากพิษของสุรา การเมาแล้วขับจนทำลายสถิติการตายเป็นเรื่องธรรมดา รู้ทั้งรู้ว่ามีคนต้องตายอีกมากมายแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จริงๆ แล้วการเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องใหญ่ และสามารถป้องกันได้แต่ไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ไขได้เลย

          ยาเสพติดสารต้องห้ามขายกันเกลื่อนทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย ในแหล่งชุมชนต่างๆและประชาชนหรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ รู้กันอยู่ว่าใครเป็นผู้ที่ทำสิ่งที่ทำลายประเทศชาติ ใครเป็นคนขายแต่ไม่เคยที่จะจับหัวหน้าได้ ได้แต่ลูกสมุนที่ตายแทนลูกพี่และแพะทั้งหลายก็รับบาปไปตามระเบียบ ยาเสพติดกลับกลายเป็นสิ่งที่วัยรุ่นนำมาใช้เพื่อโอ้อวดความสามารถ นี่คือความโง่เขลาที่พวกเขาทั้งหลายไม่เคยคิด ไม่เคยใช้สติปัญญาในการศึกษา

 

 

และหลังจากนั้นหัวใจของพวกเจ้าก็แข็งกระด้าง มันประดุจหิน หรือแข็งกระด้างยิ่งกว่า และแท้จริงจากบรรดาหินนั้น มีส่วนที่บรรดาธารน้ำพวยพุ่งออกจากมัน และแท้จริงจากบรรดาหินนั้นมีส่วนที่แตกแยกออก แล้วมีน้ำออกจากมัน และแท้จริงจากบรรดาหินนั้น มีส่วนที่ทลายลง เนื่องจากความเกรงกลัวพระเจ้า นั้นจะไม่ทรงเผลอต่อสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน

 



          ครอบครัวที่อบอุ่นในสังคมไทยหายไปไหนกันหมด ความสุขคือการอยู่บ้านพร้อมหน้าในครอบครัว ทานอาหารร่วมกันในบ้านที่มีความอบอุ่น  ความสุขมิใช่การเดินตามห้างสรรพสินค้า หรือการเที่ยวเตร่ตามสถานที่ต่างๆนอกบ้าน มิใช่การกินอาหารราคาแพงๆ นั่นมิใช่ความสุขและความอบอุ่นที่แท้จริง ความสุขที่แท้จริงคือความสุขสงบทาง

ความขัดแย้งของการเมืองไทยในปัจจุบันและทางออกในทัศนะของผม

 

(ปล.สิ่งที่ผม  เขียนขึ้นต่อไปนี้เป็นเพียง ทัศนะของผมซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมดเพราะมิได้อิงตามทฤษฎีใดๆมากนัก หาก ผิดพลาดบกพร่องประการใด   ผมอโหสิกรรมไว้ล่วงหน้าและโปรดหยุดอ่านเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ)

 

โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าในการพัฒนาประเทศของทุกชาติบนโลกกลมๆใบนี้ หากพินิจพิจารณาดีๆจะพบว่า ล้วนแล้วแต่บ่มเพาะมาจากอำนาจของกิเลสในจิตใจของมนุษย์ และถ้าสังเกตให้ดี เราจะพบว่าผู้จุดชนวนแห่งโศกนาฏกรรมนั้นมิใช่ประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ แต่หากชัดเจนที่สุดว่า มักจะเริ่มวี่แววของความโศกจากชนชั้นสูงที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นศักดินา

 

 แม้โลกจะวิวัฒน์พัฒนาจนค่าของนาไม่สำคัญเท่าค่าของเงินแล้วก็ตาม แต่นัยยะโดยกว้างของศักดินาก็ยังคงครอบงำความคิด การกระทำ และคำพูดของชนชั้นศักดินาผู้มั่งมีให้เข้าใจว่าตนนี้แลคือผู้ยิ่งใหญ่ในบรรณพิภพนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย  พฤติการณ์เช่นนี้ปรากฏได้ทั่วไปในสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทย และเกี่ยวโยงกันอย่างยิ่งกับความขัดแย้งของการเมืองไทยในปัจจุบัน

 

 นับตั้งแต่การเมืองไทยถูกสถาปนาขึ้น นักการเมืองนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนของชนชั้น

 

ศักดินาที่ควบคุมอำนาจของประเทศเอาไว้ด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์ศฤงคาร ไพร่พลพวกพ้องของตน หากนักการเมืองนั้นเป็นคนดีก็นับว่าเป็นชะตาดีของประเทศ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามมากจนทำให้คิดว่าประเทศไทยช่างดวงแข็ง เพราะถ้าเป็นประเทศอื่นอาจ ชะตาขาดไปนานแล้ว  มันเป็นเช่นนี้มานมนานตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันราวกับนักการเมืองรุ่นพี่ปูแนวทางไว้ให้กับรุ่นน้องในการทำมาหากินบนหลังคนด้วยกัน

 

 ปัญหาของการเมืองไทยในปัจจุบันนั้นมีจุดเริ่มมาจากกิเลสของนักการเมืองเพียงไม่กี่คนที่หนาและหนักเกินกว่ามนุดมนาสามัญชนทั่วไป จนทำให้เกิดการคอรัปชั่น โกงกิน และบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ที่ยากเกินการยอมรับของประชาชนไทยบางกลุ่ม ในช่วงรัฐบาลชุด นายทักษิณ ชินวัตร ผลที่ตามมาก็คือการออกมาแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศเพื่อขับไล่นายทักษิณออกจากตำแหน่ง ซึ่งแย้งกับประชาชนอีกกลุ่มที่ยังเชื่อในความสามารถของนายทักษิณ    ที่แม้อาจจะเป็นผู้นำไม่ดีบางอย่าง   แต่ก็นับเป็นนักการเมืองผู้มีความสามารถคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

 

 ความขัดแย้งดูเหมือนจะจบสิ้นลงด้วยการยึดอำนาจทางการเมืองด้วยคณะรัฐประหาร เมื่อ

19 ก.ย.2549 ที่ปราศจากความรุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ไทย แต่ด้วยการผิดพลาดในการดำเนินการเคลียร์ปัญหาบ้านเมืองแบบไม่จบของรัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุฬานนท์ ทำให้รัฐบาลตัวแทนของนายทักษิณกลับมารับตำแหน่งต่อถึงสองสมัย นั่นคือ รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

 

 สิ่งที่ตามมา คือ ประชาชนทั้งสองกลุ่มต้องออกมาแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองคนละขั้วเช่นเดิม และต้นเหตุในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะมาจากการทำงานอย่างครึ่งๆกลางๆของรัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์

 

ความขัดแย้งดูเหมือนจะจบสิ้นอีกครั้งคำเมื่อคำพิพากษาของตุลาการตัดสินให้นายทักษิณมีความผิดจริง และนักการเมืองที่กระทำความผิดหลายคนต้องถูกสั่งห้ามลงเล่นการเมือง แต่...

 

นักการเมืองที่ดีน้อย ก็เปรียบได้กับเด็กที่ถูกพ่อแม่ตามใจ จะเอาอะไรก็ต้องได้สมใจปรารถนา เมื่อไม่ได้ก็โวยวาย กราดเกรี้ยว คิดค้นหากลวิธีเพื่อให้ได้ดัง ใจฉันและวิธีดังกล่าวนี้ก็ไม่มีวิธีใดเลยจะประจานบิดามารดาของตัวเองได้ดี และเรียกร้องให้ชาวบ้านหันมาเห็นใจได้ดีเท่ากับการปลุกปั่นกระแสโดยใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ

 

ดูเหมือนนักการเมืองที่นั้นจะรู้ว่าคนที่หันมาสนใจเค้านั้นอาจไม่ใช่เฉพาะเพียงคนรัก หากรวมถึงคนที่เกลียดชังตน ซึ่งนั่นน่าจะดีกว่าการถูกลืม จึงสรรหาสิ่งที่จะมาเป็นประเด็นให้ประชาชนสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเข้ามาแสวงหาลาภ ยศ สรรเสริญของตน

 

สิ่งที่เป็นประเด็นปัญหาหลักที่ถูกหยิบยกในขณะนี้ การแก้รัฐธรรมนูญ

 

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหลักอันสูงสุดของประเทศ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้นมีการฉีกและเขียนรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีฉบับใดที่ลงตัวเลยสักครั้ง โดยเฉพาะฉบับปัจจุบันซึ่งเป็นประเด็นร้อน

 

รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550” อาจเรียกได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ เข้มกับนักการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แม้จะมีการลงประชามติยอมรับจากประชาชนก็ตาม แต่ที่มาที่ย่อมไม่สวยเท่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างโดยตรง  ซึ่งแท้จริงแล้วรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอาจไม่มีข้อบกพร่องเลยก็เป็นได้ หากไม่กระทบกระเทือนผลประโยชน์ของนักการเมืองใหญ่น้อยในประเทศแห่งนี้ผู้มีนิสัยนิยมความเป็นใหญ่และจมไม่ลงอย่างเหลือหลาย


แต่จไปกีดก ประชชาชน ที่ไม่จบปริญญาตรี ซึ่งยังมีอยู่อีกมากหลายไม่ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ อย่างผม จบแค่ปวส.  ก็ถือว่า ยังไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ของประชชาชน ทั้งประเทศ ผมก็จะกเป็นนายกฯให้เพื่อนประชาชนไม่ได้  ถ้าไปเขียน    กฎหมาย รธน.แบบนั้น ต้องเขียนใหม่ นายกรัฐมนตรี มาจากไหนก็ได้ แม้จบ ป.4 ก็มีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้

 

สิ่งที่เกิดตามมา คือ การแตกแยกกันเป็นฝักฝ่ายของประชาชนตามความเห็นที่ต่างกันไปตามขั้วการเมือง ทำให้ประเทศอ่อนแอ ขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

 

แต่ที่น่าสังเกต คือ แนวคิดของประชาชนในยุคสมัยนี้ดูเหมือนจะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ผิดกับแนวคิดประนีประนอมต่อนักการเมืองของคนไทยในอดีตนั่นคือ

 

ไม่มีนักการเมืองที่ไหนไม่โกงกินหรอก แต่ยังไงก็ขอให้พ่อกินน้อยๆหน่อยก็แล้วกัน แล้วบริหารประเทศให้ฉันได้มีอยู่มีกินบ้างนะพ่อ

 

ซึ่งฟังแล้วคลับคล้ายคลับคลากับคำปรารภของนักร้องราชาลูกทุ่ง สายัณห์  สัญญา ที่มักพูดโหมโรง ก่อนการแสดง ดนตรี คอนเสริต์ที่ว่า รักน้อยๆแต่รักนานๆนะที่รักอย่างไรชอบกล

 

นี่อาจเป็นจุดที่น่าดีใจบ้างในความขัดแย้งดังกล่าวซึ่งหาได้ยากเต็มที

 

หากจะหาทางออกให้กับความขัดแย้งดังกล่าว ข้าพเจ้ามีทัศนะว่ายังไม่ควรรีบร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ควรเผยแพร่เป้าหมายอันแท้จริงแห่งการแก้และไม่แก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึงเสียก่อน เพราะจากสภาพการณ์ในปัจจุบันนั้น มีประชาชนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่รับรู้สาเหตุดังกล่าว ประชาชนอีกจำนวนมากอยู่ในสภาพไหลตามน้ำตัดสินใจเพียงตามความรักชอบในตัวของผู้จุดประเด็นความคิดอย่างขาดข้อมูล  และซ้ำร้ายยิ่งไปกว่า คือ ประชาชนอีกเป็นจำนวนมากเริ่มรู้สึกรำคาญปัญหาที่คาราคาซังจนถึงกับเริ่มดำริว่าอะไรๆก็เอามาเหอะ...

 

ประชาชนกลุ่มหลังนี่นับว่าเป็นกลุ่มผู้มีความคิดที่น่ากลัว เพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่าประชาธิปไตยของไทยยังด้อยการพัฒนาและดูท่าจะพัฒนาต่อไปลำบาก

 

วิธีการที่ดีในการจุดประเด็นดังกล่าวให้เป็นที่สนใจของประชาชนเห็นทีจะหนีไม่พ้นปล่อยให้สื่อมวลชนทำหน้าที่อย่างอิสระไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนที่มีชื่อว่าเป็นสื่อสารธารณะ สื่อของกองทัพ หรือสื่อของรัฐบาลก็ตาม ซึ่งอันที่จริงพวกเขาควรมีอิสระหน้าที่ในการเป็นกระบอกเสียงในการเผยแพร่ความจริงสู่ประชาชนตามจรรยาบรรณอยู่แล้ว โดยรูปแบบการนำเสนออาจเป็นการจัดอภิปรายถึงเป้าหมายอย่างเป็นทางการ เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่สามารถรับรู้ในเชิงลึกและมีความสนใจเป็นทุนเดิม โดยเชิญผู้ดำริจะแก้และไม่แก้โดยตรงมานั่งอภิปรายกันเลย   ถกกันเห็นๆ  หรือถ้าท่านผู้นั้นไม่พร้อมที่จะมานั่งถกเพราะเป็นนักโทษกำลังหนีคดีอยู่อาจใช้วิธีการ”Phone in”ก็น่าจะทำได้ เพราะก็เห็นท่านทำอยู่ปาวๆอยู่แล้วโดยที่ผู้พิทักษ์ความเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่สามารถทำอะไรได้ หัวหน้าฝ่ายเสื้อสีอะไร จะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็จับมานั่งรวมกันให้หมด แล้วว่ากันด้วยเหตุผลเท่าที่แต่ละคนมี แต่สำคัญ คือ ไม่เอาพวกลูกน้องรับคำสั่งนายมาอีกทีมานั่งอ่านกระดาษเหมือนขันทีอ่านพระราชบัญชาของฮ่องเต้เหมือนในภาพยนตร์จีนเพราะให้ความรู้สึกไม่อาจหาญแกล้วกล้า ไหนๆโต้โผใหญ่ของแต่ละฝ่ายกล้าตัดสินใจแล้วก็จำเป็นต้องกล้าพูดด้วย 

 

แต่ในขณะเดียวกันก็ควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่อาจไม่เคยมีความสนใจเลย หรือเยาวชนผู้ยังไม่คุ้นชินกับเนื้อหาการอภิปรายหนักๆ ด้วยการประยุกต์เนื้อหาแล้วจัดรายการเป็นแนวสาระบันเทิง เช่น ละครสั้น เกมส์โชว์ เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงด้วย   รูปแบบรายการเช่นนี้ยังไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์สื่อมวลชนไทย อาจถึงเวลาแล้วที่รายการบันเทิงอย่างมีสาระจริงๆจะเกิดซักทีหลังจากที่มีแต่ในนามมานมนาน เนื้อหาดีอย่างเดียวไม่เพียงพอแต่จำเป็นต้องมีศิลปะด้วยในการสื่อสาร เพราะในปัจจุบันนั้นปฏิเสธได้ยากเหลือเกินว่าคนไทยสนใจละครน้ำเน่ามากกว่าข่าวสารบ้านเมืองเพียงเพราะสนุกกว่า

 

และโปรดเชิญนักแสดงชื่อดังในฐานะประชาชนคนหนึ่งมาทำหน้าที่พลเมืองดีอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศสักครั้งด้วยเถิด เพราะอาจคัดความมีคุณภาพที่ดีของพวกเขาได้มากกว่าการมอบรางวัลที่หาข้อพิสูจน์ได้ยากเต็มทีว่าจริงเท็จแค่ไหนก็เป็นได้

 

อย่าปล่อยให้ สื่อเต็มไปด้วย สิ่งไร้สาระมากเกินพอดีนัก  อย่าลืมว่าสื่อเป็นตัวสะท้อนถึงนิสัยและความสนใจของคนทั้งประเทศ และหากทำรายการดังกล่าวจริง ขอได้โปรดอย่างี่เง่านำไปไว้หลังสี่ทุ่มเป็นอันขาด เพราะประชาชนไทยไม่ได้เป็นคนกลางคืนกันทั้งประเทศ ข้าพเจ้าเชื่อว่าหากสื่อดังกล่าวมีประสิทธิภาพพอ ทั้งหลากหลายและต่อเนื่อง ประชาชนคงตัดสินใจได้ และเมื่อนั้นความหมายที่แท้จริงของคำว่า ความเป็นกลางคงปรากฏอย่างเป็นรูปธรรม

 

 

ความเป็นกลางดังกล่าวนั้น ควรหมายถึง การว่ากันไปตามถูกผิดมิได้หมายถึง การประนีประนอมเอาถูกและผิดมาบวกกันจากนั้นจึงหารสองแต่ประการใด

 

ความเป็นกลางนั้นถูกทำให้บิดเบือนในความเข้าใจประชาชนตามความหมายอย่างหลังโดยนักการเมืองและพวกพ้องเป็นอย่างมาก จนทำให้เกิดปัญหาตามมา  ซึ่งหากจะให้ความหมายของความเป็นกลางว่าเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอเสนอให้เลือกที่จะไม่เป็นกลางและเข้าข้างความถูกต้องเสียมากกว่า เพราะแม้ฝ่ายนั้นอาจไม่ใช่ฝ่ายที่ดีที่สุดในจักรวาลแต่ก็ ดีที่สุดแล้วที่มีให้เลือก ณ เวลาหนึ่ง 

 

ยกตัวอย่างเรื่องความเป็นกลางง่ายๆจากกระบวนการยุติธรรมของศาล ซึ่งผู้พิพากษานั้นต้องฟังความของทั้งโจทย์และจำเลย จากนั้นจึงพิจารณาถึงหลักฐาน ข้อมูล ตลอดจนความเป็นไปทั้งหมด แล้วตัดสินให้ผู้ที่เป็นฝ่ายถูกชนะ มิใช่เอาความคิดของทั้งสองข้างมารวมกันแล้วหาข้อยุติที่ตรงกลางอย่างที่มีนักการเมืองหลายคนชอบบิดเบือนว่า คือ ความเป็นกลางแต่อย่างใด

 

ข้าพเจ้าเคยเห็นแต่ภาพเด็กน้อยแย่งขนมกันแล้วผู้ใหญ่ต้องเข้ามาแบ่งครึ่งเพื่อให้เท่ากันแล้วจบๆไป นักการเมืองไทยผู้มีสติปัญญาไต่เต้าขึ้นมาเป็นคนปกครองประเทศที่ต้องการวิธีดังกล่าวมีศักยภาพเพียงเท่านั้นดอกหรือ? เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสากระทำการดังกล่าวอาจยังพอมองเห็นความน่าเอ็นดูอยู่บ้าง หากแต่ในกรณีนี้ข้าพเจ้าเพียงกังวลว่านักการเมืองไทยบางคนจะไม่ยอมจบแม้จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราแล้วก็ตาม ด้วยนิสัยที่เคยชินกับความเป็นใหญ่ของความเป็นโคตรเหง้าของศักดินา ซึ่งคงดูน่าสมเพชกว่าเด็กน้อยด้วยความที่เดียงสาแล้วแต่ไม่รู้จักคิด

 

เมื่อเกิดปัญหาคงไม่มีกลุ่มชนใครเพ่งแก้ที่กฎเป็นอันดับแรก แต่คงแก้ที่พฤติกรรมของผู้กระทำผิดจึงน่าจะตรงจุดมากกว่า   การแก้ปัญหาที่ดีนั้น อันดับแรกต้องว่ากันไปตามกฎหมายเพราะเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า คือ ต้องคำนึงถึงศีลธรรมจรรยาที่มนุษย์พึงมีและเป็น เพราะนั่นเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงมิใช่เพียงในนาม

 

 

 

 

การเป็นกลุ่มผู้ปกครองประเทศคงไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเพียงความสามารถเท่านั้น เพราะนั่นอาจทำให้โลกเบี้ยว คุณธรรมในตัวคุณต่างหากที่จะทำให้โลกกลมและสมดุล

 

  สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากให้คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังมาอภิปราย ที่อุบลฯวันนี้ หรือคุณสุชัย  เจริญมุขยนันท์ ผู้สื่อข่าวเพื่อเฟสบู๊คนำไปแก้ไข ให้เป็นไปตามเสียงของประชาชน เสียงความเป็นธรรม อย่างแท้จริงเถิด  สวัสดี..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น