วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บันทึกเหตุการณ์ มหัศจรรย์ ของดี วัดภูพลานสูง

เปิดตำนาน
สุริยธาตุ ม.ศ.๕
www.suriyathatcivilize.org



ในครั้งพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะทรงพระชนมายุ 50 พรรษาได้ทรงเสด็จมาพร้อมด้วย พระอัครสาวกและพระอรหันตสาวก ของพระพุทธองค์ คือ พระมหาโมคคัลลานะ พระอานนท์ พระสีวลี พระมหากัสสปะ ที่ดินแดนสุวรรณภูมิบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ณ วัดภูพลานสูง อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี (อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในปัจจุบัน) และได้ประทับรอยพระพุทธบาทขนาดเท่าองค์จริงไว้ โดยทรงมีพระพุทธประสงค์ที่จะประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ ณ ที่แห่งนี้ในยุคกึ่งพุทธกาล ( พุทธศักราช 2550 ) โดยให้ พระเทวจักร กิตฺติโก ผู้เป็นประธานสงฆ์ในดินแดนสุวรรณภูมิสมัยนั้นเป็นผู้จารึกรายละเอียดของพระบรมสารีริกธาตุที่จะเสด็จมา ไว้บนพระคัมภีร์โบราณ เพื่อเป็นหลักฐานรับรองในทางประวัติศาสตร์
ณ ปัจจุบันนี้ได้ถึงเวลาแล้วที่พระพุทธองค์ได้เสด็จมาอุบัติบังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ด้วยพระพุทธสรีระของพระพุทธองค์ ที่วัดภูพลานสูง เป็นที่ซึ่ง พระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวา พระ-สรีรังคารธาตุ พระพุทธโลหิต พระพุทธทันต ( พระเขี้ยวแก้ว ) พระพุทธนขา ได้เสด็จมาเอง และยังมี รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา และ รอยพระพุทธหัตถ์ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประทับไว้ที่ “ ผาผึ้ง ” หน้าผาประวัติศาสตร์ เมื่อคราวที่เสด็จมาในครั้งนั้น เพื่อเป็นการประกาศพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้งในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ซึ่งเป็นยุค “ ศิวิไลซ์ ” ใหม่
ณ บัดนี้
เสียงสาธุการดังกึกก้อง
ไปทั่วอาณาบริเวณนั้นว่า
“ สุริยะธาตุปรากฏแล้ว ”
 1. พระพุทธนขา ( หลวงพ่อพระโตโคตะมะ) ค้นพบเมื่อปีพุทธศักราช 2535 2. พระบรมสารีริกธาตุ ข้อพระหัตถ์เบื้องขวา เสด็จมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547
3. พระสรีรังคารธาตุ เสด็จมาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2548
4. พระพุทธโลหิต เสด็จมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2549
5. พระพุทธทันต ( พระเขี้ยวแก้ว ) เสด็จมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2549 6. รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ปรากฏเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549
7. รอยพระพุทธหัตถ์ ปรากฏเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2551
ซึ่ง พระธาตุสด ของพระพุทธเจ้าที่ยังไม่ถูกเผาไฟในโลกนี้มี 3 องค์ คือ
พระพุทธนขา พระพุทธโลหิต พระพุทธทันต และที่จะเสด็จตามมาในอนาคต ยังมี พระพุทธจีวร ( ใยพระแก้ว ) และพระพุทธเกศา (นี้คือ พระบรมสารี ชิ้นเอกของโลก)
เพื่อเป็นการน้อมรองรับพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงมาอุบัติขึ้น ณ ดินแดนสุวรรณภูมิในยุคกึ่งพุทธกาลนี้เพื่อให้มีความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงถาวรแก่พระพุทธศาสนา สืบต่อไป ขอเชิญชวนพุทธบริษัททุกท่าน ร่วมน้อมใจกันสร้างศาสนสถานเพื่อประดิษฐานพระ-บรมสารีริกธาตุ ณ วัดภูพลานสูง อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ( อยู่ในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่ง-ชาติภูจองนายอย ) ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างศาสนสถาน ดังนี้
1. มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ความสูง 35.50 เมตร
2. มหาวิหารแก้ว ( ประดิษฐานพระพุทธจีวร ) ความสูง 69.72 เมตร
3. มหาปราสาท ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “ มหาเจดีย์ศรีสุริยะธาตุ ” 227 ยอด ( ประดิษฐานพระสรีรังคาร ธาตุ พระพุทธโลหิต พระพุทธทันต ข้อพระหัตถ์เบื้องขวา )
( เฉพาะตัวอาคารฐาน มีเนื้อที่ 8 ไร่ ) ความสูง 85.51 เมตร
และต่อไปสถานที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งใหม่ของโลก โดยมี
พระครูธรรมธร ภรังสี ฉนฺทโร ท่านเจ้าอาวาส วัดภูพลานสูง เป็นประธานคณะสงฆ์ในการดำเนิน
การก่อสร้าง
ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าแด่พุทธบริษัททุกท่าน ที่จะได้ช่วยกันทำหน้าที่ประกาศเผยแผ่พระเกียรติคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ กราบอาราธนาขอเดชอำนาจบารมีแห่งพระพุทธองค์ที่เสด็จมาปรากฏ โดยพระสรีระส่วนต่าง ๆ อันมี หลวงพ่อพระโตโคตะมะ ( พระพุทธนขา ) เป็นประธาน จงนำพา “ วิถีจิต ” ของพุทธบริษัททุกท่านให้ไปสู่ในสี่งที่ดีๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งชาตินี้และชาติหน้า คำว่า “ ไม่มี ” จงอย่ามีแก่พุทธบริษัททุกท่าน ทั้งโลกีย์ทรัพย์ อริยะทรัพย์ จงมีเหตุมีปัจจัยนำไปสู่ฝ่ายกุศลธรรม ทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป ทุกชาติ ทุกชาติ ทุกชาติ จนกว่าจะถึง ซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เทอญ.........!
ด้วยเนื้อนาบุญแห่งองค์พระศาสดา ข้าฯละอองธุลีพระพุทธบาท
พระนพสิทธิ์ กิตฺติญาโณ พิมพ์... ๐๙ / ๐๙ / ๒๐๐๙

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามความเคลื่อนไหวของ วัดภูพลานสูง ผ่านทางFACEBOOK เข้าไปกด like กันเยอะๆนะครับ

www.facebook.com/suriyathat civilization