วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อุบลราชธานีเมืองหลวงอาเซียน


ผม หลังจากได้ปล่อยบทความ บนบล็อกไปหลายเรื่อง มีประเด็นหนึ่ง คือ
เรื่องกระจายอำนาจเศรษฐกิจ จากศูนย์กลางกรุงเทพฯ เมืองหลวงของ       ประเทศไทย สู่เศรษฐกิจต่างจังหวัด หรือ กลุ่มจังหวัด

 
เพราะเศรษฐกิจกรุงเทพ เติบโต เป็นอย่างมาก ปัญหาเมืองใหญ่ก็มีเป็นเงาตามตัว หลังจากที่ผมได้ปล่อยบทความไปสักครู่ ไม่รู้หูผมแว่วๆได้รับคำตอบมาทันควัน อยากให้ต่างจังหวัดอุบลราชธานีบ้านผม เป็นเมืองหลวงของอาเซียน ผมไม่นึกไม่ฝัน จะได้รับคำตอบที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้


   แต่ก็เหมาะสมดี สมกับทำเลทางภูมิศาสตร์ แถบอีสานตอนล่าง ขึ้นชื่อว่าเมืองอุบลราชธานี เป็นเมืองของนักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา เช่นหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ชา สุภัทโท เคยมาเกิดที่นี่ เพียงหลวงปู่ชา แห่งวัดหนองป่าพง อริยสงฆ์รูปเดียว ในยุคประเทสไทยสมัยนี้ ถือว่าเป็นกองทัพธรรมยุคโลกาภิวัตน์ ได้เลยทีเดียว เพราะท่านนำพระสงฆ์ขยายกิ่งก้านสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้อย่างเป็นปึกแผ่น ประจวบเหมาะกับยุครัฐบาล คสช.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้นำกองทัพบก มีความคิดที่จะปฎิรูปศาสนา โดยเฉพาะเรื่อง ล่าสุด การออกกฎหมาย เก็บภาษีพระ  ตั้งแต่2หมื่นบาทขึ้นไปต้องเสียภาษี

 

  เรื่องทำเลภูมิศาสตร์ แถบบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี และ กลุ่มจังหวัด ในเขตอีสานตอนล่าง   เป็นที่ราบสูง  ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมเหมือนกรุงเทพฯอุบลฯเป็นดินแดนศักดิ์สิทธ์ ที่พระอริยเจ้ามาเกิดมากที่สุด เรื่องประสบภัยทางธรรมชาติไม่ค่อยมีเหมือนภาคอื่นๆ  ถ้าไปที่ภาคเหนือ ก็มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้ว ที่เชียงราย   ถ้าไปที่ภาคใต้ก็มีภัยสึนามิ แผ่นดินไหวที่พังงา แถบภาคตะวันตกและกลาง มีความคุกรุ่น แผ่นดินไหว ที่อยู่บนรอยเลื่อนภูเขาไฟ ที่กาญจนบุรี  

     เพื่อนบ้านไทยถ้าหลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เนปาล แผ่นดินไหวล่าสุด เกิดขึ้นที่ลาว ตามที่ผมได้รับรายงานข่าวจากฟรีทีวีช่อง3เมื่อเช้าวันนี้ จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้  ผมมีความรู้สึก สัมผัสรับรู้ อะไรพิกล ซึ่งบางที่ไม่สามารถบอกเพื่อนๆชาวไทยได้  พักนี้ทำไมมีแต่ข่าวภัยธรรมชาติ เกิดขึ้นติดต่อกัน ซ้ำ เรื่อยๆในระยะห่างไม่นานมากนัก  ห่างกันไม่ถึงเดือน เอาอีกแล้ว 

   หรืออาจจะเป็นไปตามคำทำนายของโหร ชาวไทย ที่ออกมาทำนายประเทศไทย อาจจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมีอีก เช่น สึนามิรอบ2แผ่นดินไหวหนักๆแถบอ่าวไทย ทำให้เกิดน้ำทะเลหนุน พัดเข้าถล่มตึกอาคารสูงๆที่กรุงเทพฯพังพินาศ ก็น่าจะรับฟังโหรบ้าง บางทีอาจจะเกิดขึ้นได้  แถมจังหวะการโฆษณาหนังภาพยนตร์ ฮอลลีวู๊ด ที่เผยแพร่ทางฟรีทีวี เรื่องมหาภัยวิบัติโลก ผมอาจจะจำชื่อเรื่องหนังผิด ก็อภัย ที่มีฉากตึกสูงถล่มที่สหรัฐอเมริกา ถูกน้ำท่วม  แผ่นดินไหว ผู้คนวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต 

   นี่เฉพาะแผ่นดินไหว ขนาด 5.0ริกเตอร์ ที่ประเทศลาว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องของไทยแท้ๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้  เพราะผมไม่เคยได้ยินข่าวมานมนาน ก็เกิดได้ ที่มีผู้บอกล่วงหน้าทางสื่อต่างๆ คือ ธรรมชาติกำลังเอาคืน กำลังลงโทษ ถ้าชาวโลกทำผิดกฎธรรมชาติอีกอยู่เรื่อยๆ กฎธรรมชาติคือ กฎของศาสนา ศีลธรรมอันดีนั่นเอง



   เมื่ออุบลราชธานีคือ เมืองหลวงอาเซียน จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง  เพราะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นเมืองศาสนา  เพราะชาวเมืองแถบนี้ คือ ผู้ใฝ่ศีลธรรมศาสนา ก็ย่อมทำให้ภูมิภาค มีความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ อย่างอัตโนมัติ  เมื่อสร้างตึกรามบ้านช่องแล้ว ไม่ต้องกลัว ถูกถล่มด้วย ภัยพิบัติแผ่นดินไหว รุนแรง และน้ำท่วม  ซึ่งอุบลราชธานี ก็อยู่กลางๆของอาเซียนพอดี คือ ดินแดนติดต่อทางเหนือ ก็ลาวและเวียตนาม ทางตะวันตกติดเมียนมาร์ ทางใต้ติดมาเลย์ สิงค์โปร์ และประเทศอื่นๆตามลำดับ 

    เพราะฉะนั้นชาวไทยทุกคนต้องเตรียมตัว สู่อาเซียน เพราะเมื่ออุบลราชธานีเป็นเมืองหลวงอาเซียน  ชาวอาเซียนทั้งหลาย ก็จะคบค้าสมาคม พากันหลั่งไหล มายังอุบลราชธานี เมืองหลวงอาเซียน  ซึ่งอาจจะเป็นศูนย์กลางการค้าขายอาเซียนห่งใหม่ ศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ หรือ ศูนย์กลางบริหารการจัดการของประเทศอาเซียนแห่งใหม่ รองจากกรุงเทพฯ  เพราะปัจจุบัน ที่กรุงเทพฯ  นับวัน แออัด มากขึ้น



   ประการแรก ที่สำคัญ เรื่องภาษา  เพราะถ้าพูดคุยด้วยภาษาไม่รู้เรื่อง ก็อาจจะไม่ค่อยได้รับความสะดวก ภาษาที่ส่วนมากนิยมใช้คือ ภาษาอังกฤษ แต่เมื่อรวมเป็นอาเซียน อาจจะมีภาษาอาเซียนเกิดขึ้นใหม่ เพราะประเทศไทยมีภาษาไทย และพัฒนาภาษาขึ้นไปเป็นภาษาศาสนาใหม่ เพราะเป็นประเทศศาสนา  การค้าขายธุรกิจ อาจใช้ภาษาอังกฤษไปก่อน และค่อยๆใช้ภาษาศาสนาธรรมให้มากขึ้น อย่างเช่นไม่พูดภาษาหยาบ ตลบตะแลง คำเสียดสี ด่าทอ คำขู่คำอาฆาตต่างๆ  พูดภาษาแล้วฟังนุ่มนวล  รื่นหู คำจริง คำผูกสมานปรองดองสามัคคีกัน

  อันนี้ท่านพระเจ้า ท่านไม่ได้ห้าม ไม่ให้แสดงนะ  ใครไปบอกห้ามคนแสดง นั้นมีโทษมหันต์  เพราะศาสนาไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียว  ใครมีธรรมที่แสดง  ก็บอกกันได้ เขาจะรับฟังหรือ ไม่ฟัง หรือรับเชื่อ นั้นเป็นเรื่องของเขา

  
   เรื่องที่2 ก็คือเรื่องการศึกษา หาความรู้ ในสัมมาอาชีพของตนเอง ตามความถนัด ความชอบ พลเมืองชาวอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ที่ต้องการให้เป็นเมืองพุทธเกษตร แหล่งเกษตรกรรม ก็ต้องเน้นเรื่องสัมมาอาชีพเกษตร เพื่อ เป็นสังคมผลิตอาหาร และป้อนสู่เมืองโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ต่อไป

เมื่ออุบลราชธานี คือเมืองหลวงอาเซียน การออกแบบสร้างเมือง ก็จะมีการวางแผนสร้างเมืองพัฒนาขึ้นในอนาคตต่อไปเรื่อยๆและวางแผนป้องกันปัญหาทีอนาคตอีกด้วย   เพราะเมื่อทุกชาติอาเซียน รวมกันที่นี่ เศรษฐกิจทุกอย่าง จะสู่ระบบเดียวกัน เหมือนอเมริกาที่ทุกคนเชื้อชาติศาสนา รวมกันที่นั่น พลเมืองประเทศจึงมีมากถึง300ล้านกว่าคน
 ส่วนอาเซียนกระทั่งเศรษฐกิจเดียวกัน ระบบแรงงานอันเดียวกัน ระบบภาษีก็เป็นศูนย์  ไปๆมาอาจจะรวมพลเมืองประเทศอาเซียนประเทศเดียวเหมือนอเมริกา800-900ล้านคนประชากร  รวมไปถึงอาจจะรวมศาสนาอาเซียน เป็นศาสนาเดียวในที่สุด

เอาหละพูดไว้เพียง 2อย่างก่อน  ถ้ามีโอกาสหน้า จะเขียนเรื่องอุบลราชธานีเมืองอาเซียนต่อไป  สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น