วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

ผมกราบเท้าพระอริยะหลวงปู่หล้า ภูจ้อก้อ มาแล้ว

แนวทาง คำสอน พระอาจารย์เกษม ที่ข้าพเจ้านำมาลงเขียนไว้ ในบล็อก นั้น เป็นเรื่องราวที่สนใจมาก ในระดับ พระสงฆ์ผู้ปฎิบัติ ทางกรรมฐาน พระวัดป่า นั้น พระสงฆ์ ยุคสมัยนี้ ก็หายาก การเป็นพระ อริยะ แท้ๆนั้น ก็มียาก ถ้าปฎิบัติ ผิดทาง หลง ทาง จาก ปฎิปทา ครูบา อาจารย์ องค์ก่อนๆ ที่แนะนำทางไว้ อย่าง หลวงปู่ หล้า เขมมะปัตตโต วัดภูจ้อก้อ นี้ ….

ข้าพเจ้า เคย ไปเยี่ยม องค์พระ ท่าน ก่อน ที่ จะ มรณภาพ ปี 2537 ท่านเป็น ครูบาอาจารย์ ทีดี กับลูกศิษย์ ไม่เคยปฎิบัติ ทุศีล ปฎิปทา เป็นที่น่ากราบไหว้ บูชา และ หลวงปู่ เข้าขั้น พระอริยะองค์หนึ่ง แม้ประวัติหลวงปู่ท่าน เคยแต่งงาน มีลูกเมีย มาก่อน บวชพระ แต่ ขั้น ปลาย ปฎิบัติ จริงๆ ก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงได้ …..

และ แนวทาง ปฎิบัติธรรม คำสอน ก็มีอยู่ใน พระอาจารย์เกษม ที่ผมนำมาเขียน ไม่ใช่ เรื่องที่จะ เพ้อฝัน หรือ ไม่ใช่ความจริง เป็นความจริง ที่ คนไม่เคยรู้เห็น เพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เหนือ ชาวโลก ที่จะรู้และ เห็นตามได้ ทั้งนี้ ข้าพเจ้า ก็ยังไม่เคยเดินทางไปกราบพระอาจารย์เกษม เลย รู้เพียงจากการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะ เรื่องของ วัฒนธรรม ชาวพุทธ ทำบุญ อุทิศกุศล ผิดวิธี ทำให้ส่งบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร หรือ บุคคลในโลกทิพย์ไม่ได้ เนื่อง จาก ติดขัด อุปสรรค บางอย่าง ทำบุญให้แล้ว อย่างถ้าเป็นชาวโลก เหมือน เงิน มอบให้ ประชาชน แต่ เงินยังไม่ได้….ประชาชน อย่างผม ยังจนอยู่เหมือนเดิม ยังไม่รวยเหมือนเศรษฐีเขา...


ก็เพราะทำไม่ถูกวิธี ลองหาอ่านได้ ในอุทิศบุญให้ได้ผล ของพระอาจารย์เกษม จะ ได้ ผลแน่ๆ เพราะชาวพุทธ ต้องเชื่อว่า ทำดี ย่อมได้ดี และ ทำไม่ดีย่อมไม่ ดี ทางโลกคือ ติดคุกติดตาราง หาก ทำผิด กฎหมาย ตำรวจบ้านเมือง…….

บางคน เจ็บแขน ปวดขา ไป ให้หมอ รักษา กินยา หลายปี แล้ว ก็ไม่หาย….อยากจะตายไปจากโลกแล้ว แต่ความจริงที่มองไม่เห็น มีผี มีเปรต มีเจ้ากรรมนายเวร คอย ทวงเวร ทวงกรรม ที่ เคยทำกับเขาไว้อยู่….

ต้อง ยอมรับความจริง แม้ความจริง ที่ข้าพเจ้า จะเจ็บปวดมากแค่ไหน ยังต้องกล่าวชื่นชม ในความอดทน เสียสละ ที่ข้าพเจ้า เขียน ขึ้นมา…..ยังจะต้องชื่นชม จากคนดีอย่างข้าพเจ้า แล้ว … ทั่วทั้ง เทวดา สรวงสวรรค์ชั้นฟ้ายังชื่นชมท่านอีก และ ต้อนรับท่านที่ให้กำลังคนดี ข้าพเจ้า ไปยังสวรรค์ ชั้นฟ้า….


เพราะที่ข้าพเจ้ากล่าวและเขียน นี้ ท่านผู้อ่าน มองไม่เห็น เปรต มองไม่เห็นผี มองไม่เห็นเจ้ากรรม นายเวร ที่คอยจ้องทำร้าย จองเวร จองกรรม อยู่ เพราะกรรมทั้งดีและไม่ดี คอยให้ผล ตรงกับ พระ อาจารย์เกษม ท่านเขียน ในหนังสือ ท่าน มองเห็นด้วยตาเปล่า ไม่ได้หลับตา ทั้ง มองเห็นผี เห็นปีศาจ เทวดา บนชั้นฟ้า นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เพ้อฝัน หรือ เรื่องไม่จริงแต่อย่างใด ….


เพราะ มิติภาพชาวโลก ในปัจจุปันนี้ มันซ้อน กับภาพ โลกทิพย์ อย่างเมืองลับแลไม่มีผิดเลย เหมือนท่านมองฝ่ามือ สองทาง มองมุมหนึ่งเห็นฝ่า มือ แต่ อีกมุมหนึ่ง มองไม่เห็นหลังมือ นั่นเอง……

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น