วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปฏิวัติ๑๙

                                                           ๑๙



๖ละเว้นการพูดคำหยาบ สกปรกเสียหาย พูดแต่คำสุภาพ นุ่มนวลชวนฟัง
๗ละเว้นการพูดเหลวไหลเพ้อเจ้อ พูดแต่คำจริง มีเหตุผล มีสาระ ถูกกาลเทศะ
                                                                               
ทางใจ
๘ไม่ละโมบ ไม่เพ่งเล็งคิดหาทางเอาของที่ไม่ได้ให้ แต่คิดจะให้ คิดเสียสละ ทำใจให้เผื่อแผ่ว้างขวาง
๙ไม่คิดมุ่งร้ายเบียดเบียน หรือ เพ่งมองในแง่ทำลายกัน ตั้งความปรารถนาดี มีไมตรี มุ่งให้เกิดประโยชน์สุขแก่กัน
oมีความเห็นถูกต้อง คือสัมมาทิฎฐิ เข้าใจในหลักกรรม ทำดีมีผลดี ทำชั่วมีผลชั่ว รู้เท่าทันความจริงที่เป็นธรรมดาของโลกและชีวิต เป็นไปตามเหตุตามผลปัจจัยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

การที่มีตราบทบัญญัติกฎหมายมากขึ้น  ส่อสัญญาณถึงประชาชนด้อยคุณธรรมมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะอำนาจกิเลส สังคมสิ่งแวดล้อมพาไป สังคมถูกกดดันบีบคั้น หาทางออกไม่ได้ ต้องจำนนต่อความผิด ทางกฎหมายทั้งหลาย จะเห็นได้ว่า เรือนจำทั้งหลายทั่วประเทศมีนักโทษคดีความมากขึ้น ออกจากคุกไปแล้ว ก็ยังกลับเข้าคุกอีกก็ยังมี ไม่ได้สำนึกในบาปกรรมความผิดนั้นเลย

    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น