วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจอดีตนายกฯมาร์คเซ็คช่วยชาติ เศรษฐกิจปราชญ์นายกฯตู่ควรมีเงินเดือนประชาชน




เมื่อเช้าอาทิตย์วันนี้7มิถุนายน2558ผมได้รับฟังข่าวจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อเช้าวันนี้ ข่าวเศรษฐกิจประเทศไทยกำลังฟื้นตัวครึ่งปีหลัง


ข่าวเศรษฐกิจครึ่งปีหลังกำลังฟื้นตัวการเก็บภาษี10%

สังคมบริโภคด้วยการกระตุ้นซื้อสินค้า



 
   เรื่องเศรษฐกิจ นี้สำคัญมาก ในการดำรงชีวิตของพลเมืองทุกๆประเทศ  เฉพาะประเทศไทยนี้ บางคร้งก็มีเศรษฐกิจขึ้นๆลงๆไม่แน่นอน ตามสถานการณ์ภายในประเทศ และ ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

 

   เมื่อพูดถึง เศรษฐกิจ บางคนอาจจะไม่เข้าใจ เศรษฐกิจ คืออะไร เพราะต้องแปล อธิบายคำภาษา ออกมาอีก นอกจากผู้ที่รำเรียนมาทางสายวิชาเศรษฐศาสตร์ และมีภาษาเศรษฐศาสตร์  เช่นเศรษฐกิจมหภาค เศรษฐกิจจุลภาค หลักซัพพลาย และ ดีมานด์โดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้ง ชาวบ้านประชาชนทั่วไป ไม่เข้าใจไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่ศึกษา เรียนรู้อย่างจริงจัง 

 

    ถ้าสงสัยเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องเศรษฐกิจ  ไม่ต้องมาถามผมผู้เขียนมากนัก เพราะผมไม่ได้เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ มากนัก ให้ไปถาม อดีตนายกฯมาร์ค  อภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ คงจะอธิบายเรื่องเศรษฐศาสตร์ได้ดีกว่าผม เพราะอดีตนายกฯท่านจบดีกรี ปริญญาเศรษฐศาสตร์มา

 

     แต่ที่ผมพูดเรื่องเศรษฐศาสตร์ ในความคิดผมโดยธรรมชาติ ไม่ได้อ้างหลักทฤษฎีความรู้วิชาการมากนัก เพราะบางที่อาจไม่ใช่ความรู้ ไม่ตรงกับความจริง เพราะผมไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์มาโดยตรง   เพียงแต่ผม จะเชื่อมโยงไปสู่หลักธรรม ซึ่งทุกวิชาบนโลกต้อง มุ่งสู่ธรรม

    เพราะถ้าวิชาใดไม่มีธรรม  ถือว่าวิชานั้นไม่ใช่วิชาที่แท้จริง เมื่อประเทศไทยมุ่งสู่ธรรมาธิปไตย เศรษฐกิจจึงเป็นเศรษฐกิจธรรม ที่ผมเคยพูด อันนี้ผมไม่ได้เปิดเรื่องลับ อะไรนะครับ จะพูดเรื่องที่เห็นด้วยตาเปล่าบนโลก  ไม่ได้พูดเรื่องที่ชาวโลกทั่วไปมองไม่เห็น อย่างที่พวกฝรั่งขอร้อง



    เศรษฐศาสตร์ คือ พวกนักวิชาการ เรียกใช้คำนี้ หมายถึงวิชาเกี่ยวกับการค้าการขาย แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าระหว่างกัน การกระตุ้นการซื้อขายสินค้า ด้วยเงิน สินค้าจะขายได้มากหรือน้อย เป็นไปตามหลักซัพพลายและดีมานด์

หลักซัพพลายคือ สินค้าในตลาดมาก ความต้องการซื้อน้อย

หลักดีมานด์ คือ สินค้าที่ตลาดมีน้อยหายาก  แต่ความต้องการซื้อสูง

 
   ถ้าภาษาชาวบ้าน ประชาชน  อ่านอาจจะไม่เข้าใจ เพราะต้องแปลภาษาไทย เป็นไทยอีก เพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะ พูดกันง่ายๆคือ เศรษฐศาสตร์ ก็คือ เศรษฐกิจ ครับท่านผู้ฟัง คือ เศรษฐกิจภาพรวมใหญ่ของประเทศ ครับ  เช่น เศรษฐกิจของประเทศไทย คือ เศรษฐกิจพอเพียง  ส่วนเศรษฐกิจฝรั่ง คือ เศรษฐกิจทุนนิยม อย่างที่ เศรษฐกิจ กลุ่ม จี7 ที่กำลังประชุมกันขณะนี้ ที่กำลังมีข่าวหารือประชุม  ยุติศึกสงคราม ซีเรีย เยเมน อิรัก อีกด้วย

 

 

ถ้าเศรษฐกิจขนาดน้อย ส่วนมากไม่ค่อยใช้คำ เศรษฐกิจ แต่มักจะพบใช้คำ ธุรกิจ แทน เช่น ธุรกิจส่วนบุคคล ธุรกิจภายในครอบครัว ธุรกิจห้างร้าน บริษัทเล็กๆน้อยไม่ใหญ่โตมากนัก   เรียกตนเอง คือ นักธุรกิจ เช่น ถ้าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายรถยนต์ ก็คือ นักธุรกิจรถยนต์ ถ้าทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร ก็เรียกว่า นักธุรกิจปุ๋ย นักธุรกิจน้ำ นักธุรกิจข้าว ฯลฯเป็นต้น

 
   แม่และน้องสาวผม  ท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าไม้ดอกไม้ประดับ  ก็เรียกว่า นักธุรกิจขายไม่ดอกไม้ประดับ

 

   การกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล ที่กำลังมีมาตรการออกมาในอนาคตอันใกล้นี้ อยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจระดับล่าง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจระดับบน 



     เศรษฐกิจระดับล่าง คือ พวกชาวบ้านประชาชน ธุรกิจในครัวเรือน ทั่วไป โดยเฉพาะ เศรษฐกิจเกี่ยวกับการเกษตร เช่น นักธุรกิจปุ๋ย นักธุรกิจร้านอาหาร นักธุรกิจต้นไม้ดอกไม้ประดับ พืชเศรษฐกิจ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ทุเรียน มะม่วง พืชผัก ผลไม้ทุกชนิด เมื่อใช้เงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจการเกษตร ชาวบ้านชาวไร่ชาวสวน



     ได้รับอานิสงค์เต็มๆ เอาเงินไปกระจายให้ถึงมือประชาชน เช่น ครั้งรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ   มีเช็คช่วยชาติ ให้บุคคลระดับกลาง 15000บาท ได้เฉพาะกลุ่ม คนระดับกลาง  ส่วนคนระดับล่าง ไม่ได้รับผลประโยชน์  

     กลุ่มคนตกงาน ซึ่งมีมากทุกปี ไม่มีรายได้ และรวมทั้งผมผู้เขียน ก็ไม่มีรายได้   รัฐบาลควรมีมาตรการช่วยคนพวกนี้  เมื่อมีปัญหาคนตกงานมาก ทุกๆวันต้องใช้เงินซื้ออาหารซื้อน้ำ ทุกๆวัน เมื่อไม่มีเงิน ก็คิดเป็นโจร ยักยอก ลักวิ่งชิงปล้นผู้อื่น  ตำรวจก็ตามจับ เข้าคุกเข้าตะราง เป็นปัญหาสังคมเงาตามตัว เป็นลูกโซ่  เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ

 

รัฐบาลต้องไปสืบเสาะบุคคล ที่เข้าข่ายไม่มีงานทำไม่มีรายได้มากๆ มีสภาวะเสี่ยง กับการเป็นโจร  ป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุร้านก่อน   แล้วไปลงทะเบียน หรือ เอาเงินไปกระตุ้นคนเหล่านี้ ตั้งให้เป็นเงินเดือนประจำก็ได้ ที่ไม่กระทบเงินคงคลังมากนัก เข้าข่ายทำนองรัฐบาลให้เงินเดือนประจำกับประชาชนทุกคน แต่ผมไม่รู้ทำได้แค่ไหน  เงินคงคลังมีมากพอหรือไม่ ถ้าไม่พอ 

    ผมสนับสนุนอย่างมากที่ รัฐบาลมีความคิดมาตรการใหม่ๆ หาเงินเข้าคลังมากขึ้น เช่น พรบ.ภาษีมรดก และ ผมได้ยินข่าว อาจจะมีแผนเก็บภาษี เป็น10% จากเดิม7%   ถ้าเมีขึ้นในรัฐบาลนี้ ทำให้มีผลงานมาก ช่วยแก้ปัญหาสังคม คนระดับล่างหาเช้ากินค่ำ คนขอทาน วณิพกพเนจร นอนข้างถรนนรนแคมได้ ดีกว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย  เงินที่ยึดมาจากพวกทุจริตคอรับชั่น ก็นำเงินส่วนนี้มาช่วย เงินจากการเก็บภาษีพระก็ได้นำมาช่วย คนเหล่านี้ และมีหน่วยงาน ควบคุมดูแล พวกคนเหล่านี้ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง การเป็นโจรอีก



      ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับบน ไม่ควรไปกระตุ้นมากนัก เพราะมีรายได้พอเพียงระดับหนึ่ง  เช่น กิจการห้างร้าน บริษัท ระดับร้อยล้าน แถมมีสวัสดิการดี  แต่ ชาวบ้านประชานระดับล่างไม่มีสวัสดิการเลย  ส่วนเศรษฐกิจ บริษัทหมื่นล้านแสนล้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง บางแห่ง มีบ้านพักตากอากาศฟรี มีรถยนต์ มีเครื่องบินฟรีเป็นสวัสดิการให้พนักงาน 

 

      เมื่อรัฐบาลมีเศรษฐกิจดีตามลำดับ ไม่ฟุ่มเฟือยมากนัก  สามารถทำเป็นรัฐสวัสดิการ กับประชาชน รัฐบาลได้ในอนาคต มีกฏหมายเก็บภาษีแบบ ก้าวหน้า กับบริษัทห้างร้าน ที่มีผลประกอบการกำไรมากๆ ดูดเงิน มาเป็นกองทุนสวัสดิการ คนยากจน และผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงการเป็นโจรได้เลย ตรงนี้แหละ สามารถลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างคนรวยกับคยจนได้มาก นั่นก็คือ รัฐสวัสดิการ นั่นเอง




      สุดท้ายนี้  ฝากให้รัฐบาล ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปคิดต่อ  ส่วนเรื่องอื่นผมจะทยอย ช่วยรัฐบาลคิด  เป็นระยะๆ ตามโอกาสที่ผมจะคิดได้ จะอยู่ปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง หรือ แต่งตั้ง หรือจะเปลี่ยนระบบประเทศใหม่  ก็ให้มีเหตุมีผล ให้คำตอบกับสังคมได้ก็แล้วกัน ครับ  พุทธธรรม สวัสดีครับ........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น