วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประวัติอาตมาธัมมะทีโป ตอน3


ปี2554บวชพระบ้าน สายมหานิกาย

   เจ้าอาวาสพระครูโสภณขันติธรรม เป็นพระอุปปัชฌาย์ซึ่งเป็นเครือญาติ ของอาตมา เอง  บวชที่วัดบ้านคูขาด อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ ตรงกับวันวิสาขบูชา พระพุทธเจ้า เมื่อวันที่17พค.2554 ได้ฝึกปฎิบัติธรรมพอสมควร แต่มีศาสนกิจช่วยประชาชน ชาวบ้านมาก แทบไม่มีเวลานั่งภาวนา เลย
   
เรื่อง ศาสนากิจโปรดสัตว์ ช่วยญาติโยมพุทธบริษัท นี้ อาตมาทำได้ช่วยตามเหตุตามปัจจัยสนับสนุน ซึ่งศาสนาวัฒนธรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง 1ในภารกิจหน้าที่พระคือการบิณฑบาตร เป็นกิจวัตรหน้าที่พระ ไม่ใช่พระไปเที่ยวขอปัจจัย อย่างที่โยมเข้าใจผิด
     
   พุทธบริษัท หมายถึง อุบาสก อุบาสิกา ภิกษุ ภิกษุณี เมื่อถึงแก่กรรม พระสงฆ์มีหน้าที่เกี่ยวข้องสวดมาติกา ส่งชื่อวิญญาณขึ้นจากนรกสู่สรวงสวรรค์แต่จะขึ้นได้ ตามบุญตามกรรมตาม เพราะทำบุญสามารถติดตัวไปได้เมื่อตายเท่านั้น     ซึ่งความเชื่อประเพณีนิยมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุปันก็ยังมีอยู่         
    
     แต่ในความคิดของอาตมาสัน     พุทธบริษัท ไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่เลย      มางานเพียงพอเป็นพิธี       พระสวดภาษาบาลี คนฟังไม่รู้เรื่อง พระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าสอนอะไรกัน      แถมสังคมโลกส่วนมากมีแนวคิด    ให้ชาวโลกพูดภาษาอังกฤษได้    ซึ่งขัดไม่สอดคล้องกับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก   และชาวไทย         มีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ    ใช้ภาษาไทย  เป็น  ภาษาชาวโลก         ไม่ดีกว่าเหรอแม้แต่ฝรั่งชาวต่างชาติบางประเทศ   ยังนิยมพูดภาษาไทย  เอาแค่ใกล้ๆประเทศไทย    อย่างจีน แผ่นดินใหญ่ ยังนิยมเรียนภาษาไทยกัน    อย่างแพร่หลายแล้ว….
    
     ศาสนพิธีศาสนาธรรมต่างๆพระสงฆ์ควรละเว้นภาษาบาลี คนไทยฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเป็นส่วนมาก พูดใช้ภาษาไทยมากๆ จะพัฒนาพุทธศาสนาไทยได้มากไม่ดีกว่าเหรอ..

    หน้าที่พระสงฆ์คือช่วยนำคำสอนพระพุทธเจ้า มีในพระไตรปิฎก ที่พระอานนท์บันทึกจดจำคำสอนได้มากที่สุด มาเผยแพร่คำสอนอบรมประชาชนชาวโลกต่อ สนับสนุนพระนักเทศน์ให้มากขึ้น ที่สามารถสอนตนเองได้แล้วไปสอนคนอื่น  โรงเรียนมหาวิทยาลัยทุกๆแห่ง   มุ่งเน้นไปทางการเรียนปฎิบัติการทางพระพุทธศาสนา
    
    แต่ปัจจุปันคนไทยมักเล่นการเมือง แอบอ้างเสียงประชาชนข้างมาก โดยบางทีไม่ชอบธรรม เนื่องจากการซื้อสิทธิขายเสียง การเลือกตั้งทุจริต ไม่ยุติธรรมตกต่ำ กม.มาตรฐานต่ำ พอใช้อำนาจไม่เป็นธรรมก็เลยมีบาป เพราะคนไร้มโนธรรม ทางพระพุทธศาสนามีมาก    ประชาชนส่วนใหญ่ถูกอำนาจนักการเมืองไม่เป็นธรรม บีบคั้น ข่ม ไม่สนใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงๆจังๆ

 นักการเมืองแท้ๆจริง ต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรง กับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์....
        
   ซึ่งนับวัน ประชาชน ไม่เข้าวัดมากขึ้น      บางแห่งกลายเป็นวัดร้าง แต่พอห้างสรรพสินค้า แหล่งธุรกิจ แสงสี อบายมุขต่างๆ สนามฟุตบอล เวทีมวย การพนัน กลับมีผู้คนแออัดยัดเยียด
      
   แม้แต่อาตมา มีโครงการเป็นครูสอนพุทธศาสนาทางไปรษณีย์ ยังมีผู้คนสนใจน้อย        ไปเป็นผู้ทำรายการธรรมะไม่ค่อยมีคนฟังนำไปทำไปปฎิบัติ          มีแต่เพลงและโฆษณาสินค้า  คลื่นสถานีรายการธรรมะไม่ได้รับการสนับสนุน  ส่วนมากมีแต่คลื่นสถานีเพลงเต็มพรืดไปหมด  ฟรีทีวีก็เหมือนกัน    มีรายการธรรมะสอดแทรกนิดหน่อย  นอกนั้นคือเรื่องธุรกิจ การเมือง กีฬา ดนตรี แฟชั่น บันเทิง ภาพยนตร์ แหล่งกิน แหล่งเที่ยวเตร่สนุกสนานเฮฮา กลางค่ำกลางคืน

  อาตมาไม่มีอำนาจพอที่จะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ขึ้นอยู่กับมโนธรรม สำนึก ของผู้ทำหน้าที่ต่างหากหละช่วยกันเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย กระทั่งเด็ดขาด  ทำอย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่ออาชีพ มีอุดมการณ์อุดมธรรมสอดแทรกทุกๆอาชีพเป็นต้น…..

    ผู้คนสนใจการเมืองอะไร กันมากมาย แต่ละแห่งเวที ไปแทบสนามแตก อาตมาเคยเห็นภาพข่าวในทีวี  ประชาชนพรรคการเมืองเข้าไปฟังการปราศรัยในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้สนใจพระพุทธศาสนาเลย….

   ตัวศาสนาจริงๆนั้นอยู่สูงกว่าการเมือง การเมืองและนักการเมืองควรเป็นนักการเมืองแท้ๆ มีพระพุทธศาสนาในหัวใจ ที่เป็นธรรมมีความยุติธรรมสูง  ละกิเลส คือไม่มี ความอยาก คือความโลภ ความโกรธ ความหลง ความยึดติด ยึดถือ ทิฐิมานะ ความถือตัว ได้หมด

   แม้มีนักศาสนาบางคน เสนอ นักการเมืองลดเงินเดือนให้น้อยลง ก็ต้องยอม คือเข้ามาเสียสละผลประโยชน์ ไม่ได้มาแสวงหาผลประโยชน์    ถ้าท่านผู้อ่านไปฟังแนวคิดของสมณะโพธิรักษ์ จะรู้เรื่องดี


  เพราะฉะนั้นพระศาสนาจะช่วยสังคมชาวโลกได้ ก็คือ ชาวโลกต้องนำพระศาสนาไปปฎิบัติ  เท่านั้นไม่มีทางอื่นเลย….และพยายามหยุดยั้งใจ ไม่ให้มีกิเลสฝ่ายต่ำบงกา
  
    ชาวพุทธ หาวัดสถานที่ปฎิบัติธรรมดีดีเงียบๆสงบ พูดน้อย กินน้อย ปฎิบัติให้มากๆเพราะแรกๆอาตมาบวชเสร็จ จะขออนุญาตย้ายไปปฎิบัติธรรมเงียบๆที่วัดป่า แต่พอพูดกับเจ้าอาวาสกลับไม่ค่อยพูดด้วย พอถามทีก็เงียบ     แม้แต่เอ่ยทำใบสุทธิก็ไม่พูดด้วย กระทั่งปัจจุปัน อาตมาไม่ได้พกใบสุทธิพระ คือ ใบรับรองจากเถรสมาคมคือนักบวชพระ

     อาตมาก็เลยคิดว่าทุกวันนี้ อาตมาเป็นพระเถื่อน ไปไหนมาไหน เจอตำรวจ มาขอตรวจพระ จะเอาหลักฐานอะไรให้เขาดูเล่า เพราะมีข่าวทางบ้านเมืองว่ามีคนต่างด้าวบวชเป็นพระก็มี  ตำรวจ อาจจะจับอาตมาโทษฐาน ไม่พกไม่มีใบสุทธิพระ ถ้าจะตรวจอาตมาก็ให้ดูแต่บัตรประชาชนแค่นั้นแหละโยม เพราะอาตมาเป็นประชาชนราษฎรชาวไทยเต็มขั้น….



อยู่ได้ด้วยธรรม

    ออกพรรษาปี 2554 เสร็จ เริ่มออกจากวัดบ้านคูขาด ที่อาตมาบวช เพราะทนไม่ไหว ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน2555 มาเยี่ยม ท่านสมณะโพธิรักษ์ มาฉันอาหารมังสวิรัติกับท่าน เพราะที่วัดอาตมาไม่มีกิน

   ชาวบ้านมักทำอาหารปาณาติบาตร เนื้อสัตว์ ปนสารเคมี บางอย่างทำลายสุขภาพ พอไปพูดโยม   ก็กล่าวหาอาตมาว่า อาตมาด่า ไม่เชื่อฟังเหตุฟังผลอาตมาเลย   เพราะบาปร้อนตกต่ำขึ้นอยู่กับคนทำ คนจะดำเมื่อทำผิดศีล5 ศีลกุศลกรรมบท10 ทั้งหลาย   อาตมาก็เลยเฉยๆ   
    
  อาตมาจึงเลือกฉันเฉพาะอาหารปลอดสารพิษ  เพราะตั้งแต่ฉันอาหาร เนื้อสัตว์ สุขภาพร่างกายอาตมา อ่อนแอ มักมีโรคภัยพาลเบียดเบียน บางครั้งรู้สึกหายใจรวยรัน หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เหมือนรู้สึกเหมือนคนใกล้ตายแล้ว รู้สึกทรมาน ทรกรรมมาก บางทีก็คิดอยากตายไปจากโลกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย  อยู่ไปก็ทุกข์ทรมาน  กับมายาไสยไถ่ สิ่งแวดล้อมต่างๆใกล้ตัว…..

     ที่อยู่ได้ก็เพราะธรรม มีอุปสรรคปัญหาต่างๆมารุมเร้า ใครจะว่าอาตมาเป็นพระบ้า พระอวดดี  อวดเก่ง จองหอง อยากเด่น อยากดัง หรือ อะไรต่างๆ ใครจะว่าก็ช่างเขาเถิด จะขู่ บีฑา กลั่นแกล้ง อาตมาไม่สนใจ ทั้งสิ้น
    
   อาตมาเชื่อมั่นคำสอนพระพุทธเจ้าครูบาอาจารย์ ธรรมะนั้นย่อมรักษาผู้มีธรรมะ ใครทำบาปไม่ดีกับพระกับเจ้าผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ละแล้วซึ่งกิเลส เขาพวกนั้น จะได้รับโทษบาปกรรมเร่าร้อนของเขาเอง  เท่าทุกวันนี้อาตมามีธรรมะ


   หลักความเพียร คือ หลัก ปฎิบัติบูชา ที่พุทธองค์สรรเสริญ
มีอยู่เพียง 2 ประการ  ได้แก่
1.เพียรละบาปอย่างเต็มความสามารถ
2.ให้เพียรสร้างบุญสร้างกุศล  ทำให้มากๆยิ่งทุกข์มากยิ่งทำ  ทำให้จิตใจมองเห็นว่า  อ้อนี่แหละบุญ  ผลคือ ความสบายความสุขใจตามมา
  พระพุทธเจ้า ตรัส  ว่า ท่านทั้งหลาย อย่ากลัวบุญเลย  นักภาวนา  ถ้าหากทำได้ทำมากๆ  เจริญมากๆ   บุญกุศล บ่อยๆย่อมได้  อานิสงค์แห่งภาวนาย่อมปรารถนาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ขออย่างไรเดียว  ให้มันจริง   ทำให้จริงๆสักทีเถิด


ไปหาง่าย ใจดี มีเมตตา      

ปัจจุปัน อาตมาสัน แวะมาเยี่ยมหลวงพ่อชิน ที่วัดป่าขามใหญ่ ต.ขามใหญ่ .เมือง .อุบลฯ ได้เอ่ยปากชวนอาตมาอยู่เป็นเพื่อน ที่กุฎิสีเขียว ทิศตะวันออกของวัด อาตมามักอยู่กับที่นานๆไม่ได้ จึงคิดว่าอยู่เพียงระยะหนึ่งพอ แล้วจะไปอยู่ที่อื่นทั่วไทย…..
 

   อาตมา แม้จะมีหน้าที่การงานมากก็จริง ทั้งทำรายการเผยแพร่ธรรมะสถานีวิทยุและอินเตอร์เน็ต เขียนหนังสือ และ มีกิจนิมนต์ของญาติโยม ชาวพุทธ ก็พอมีเวลาสนทนาธรรม เพื่อให้คำแนะนำญาติโยมได้ สังคมสาธารณะประเทศไทย ทั้งทางเว็บไซด์www.facebook.com/sanwonder    และ www.buddhadooddle.blogspot.com
   
   แต่งานอันเป็นภารกิจที่สำคัญจะสำเร็จได้ ก้อต้องอาศัยแรงศรัทธา ของประชาชนชาวไทย และ ชาวโลก ที่จะช่วยสนับสนุน ภารกิจสำคัญนี้เพื่อให้พระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งของชาวโลกเย็นด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นำไปทำให้เกิดผลอย่างแท้จริง……

 โครงการ ที่อาตมาสันทำในปัจจุปัน

แจกCDเสียงธรรมตายแล้วไปไหน จากนิตยสารโลกทิพย์ ของพระสันติชัยธัมมะทีโป จำนวนตอนที่ 1 - 55 จากประสบการณ์จริงของประชาชน ทั่วประเทศไทย ที่เกิดขึ้นจริง โดยทางผลของกรรมของตนโลกทิพย์ ปัจจุบันท่านบวชตลอดชีวิตที่ ณ วัดป่าศรีถาวรนิมิต จังหวัดนครนายก จึงขอกราบลาและขอขมาทุกๆ ท่านที่ได้เคยล่วงเกินทั้งทาง กาย วาจา ใจ ขออโหสิกรรมต่อกันและกันด้วยเทอญ คะนอง เนินอุไร ( อานนท์ , นิโรธ ) ทั้งนี้ ผู้รวบรวมขออนุโมทนาบุญ จากเสียงของท่านเผยแผ่ให้ผู้สนใจในธรรมได้ใช้ประโยชน์ กับเสียงธรรม สืบไป เสียงธรรมตามแล้วไปไหน สามารถขอรับได้โดยส่งแผ่น CDR จำนวน 1 แผ่น



1.หรือระบุต้องการเรียนพุทธศาสนาฟรีทางไปรษณีย์ แจ้งความจำนงสมัครโดยตรงกับอาตมา เพื่อทราบจำนวนผู้เรียนจบมีใบประกาศนียบัตรให้

2.อบรมคอร์สฝึกปฎิบัตธรรม แจ้งชื่อปฎิบัติธรรม ด่วน.....







มาที่ พระสันติชัย ธัมมะทีโป วัดบ้านคูขาด ต.หนองเหล่า อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ (CD. เสียงตายแล้วไปไหน) พร้อมจดหมายชื่อผู้รับติดแสตม์ 6 บาท มาด้วย .... สำหรับหน่วยงานราชการ หรือโรงเรียนใดที่สนใจต้องการเพื่อการเรียนการสอนแก่เยาวชน และเรียนรู้ฟังพระธรรมคำสังสอนของพระพุทธเจ้าได้ตลอดเวลา ขอให้ระบุให้ชัดเจน โดยทางผู้จัดทำจะจัดส่งให้ฟรีให้ท่านครับ (เฉพาะหน่วยงานราชการและวัดต่างๆทั่วประเทศ) หรือบริจาคทรัพย์สนับสนุนโครงการได้ตามกำลังศรัทธา ทางบริการทางการเงินปัจจัยต่างๆ

  งานอาตมาสัน ปัจจุปันเป็นครู ช่วยสอนพุทธศาสนาในโรงเรียน บ้านคูขาด อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ
ที่อยู่ปัจจุปัน
นายสันติชัย วรบุตร
บ้านเลขที่295ม.15หมู่บ้านนาคำ ต.ขามใหญ่ อ.เมือง  จ.อุบลราชธานี 34000
tel.0885830096

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น